เหตุใดองค์กรภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องรักษาความคล่องตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

October 14, 2025โดย Stuart Potchinsky, Sr Director, Solutions Marketing for Discrete Manufacturing

การเติมเต็ม ผู้ผลิตหลายรายต่างเผชิญกับ “ช่องว่างด้านมูลค่า” ในส่วนของความคล่องตัว ซึ่งโครงการริเริ่มในการเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลนั้นไม่ได้ช่วยปรับปรุงการตอบสนองอย่างเพียงพอ หรือไม่เฉพาะเจาะจงเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรม

ในแง่มุมของการหยุดชะงักมากมายในปัจจุบัน ช่องว่างนี้ถือเป็นปัญหาและยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ บทความของ McKinsey ชิ้นนี้ระบุว่าเหล่าผู้บริหารคาดว่าผลกระทบจากการหยุดชะงัก เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหรือช่องโหว่ของห่วงโซ่อุปทาน จะเพิ่มขึ้น 15% ถึง 25% ภายใน 5 ปี ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตควรหาวิธีแก้ไขโดยเร็วที่สุด

การหยุดชะงักเกิดจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจโลก ระบบโลจิสติกส์ที่คาดเดาไม่ได้และไม่น่าเชื่อถือ กฎระเบียบในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง และระบบเก่าแก่ที่ช้าเกินไปและมีค่าใช้จ่ายสูงในการปรับใช้

ผลกระทบจากการหยุดชะงักนั้นกว้างขวาง ซึ่งทำให้ต้นทุนและระยะเวลาดำเนินการในห่วงโซ่อุปทานเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า และองค์กรต่างๆ ไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ยังมีแสงสว่างอยู่ที่ขอบฟ้า แม้ว่าเดิมพันสำหรับองค์กรการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่โอกาสในการเติบโตก็มีอยู่มากมาย ทั้งความภักดีของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ความได้เปรียบทางการแข่งขัน และผลกำไร ทำให้หลายๆ องค์กรเปลี่ยนความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นจริง

การรับมือกับการหยุดชะงักอย่างตรงไปตรงมา

เหตุการณ์วุ่นวายทั่วโลก เช่น Brexit, การแพร่ระบาดใหญ่ของ Covid-19, ภาษีศุลกากรที่กำลังจะเกิดขึ้น และความขัดแย้งทั่วโลก ล้วนส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบรรดาผู้ผลิตต่างมองหาวิธีหลีกเลี่ยงสถานการณ์ซ้ำรอยกันเพิ่มมากขึ้นในกรณีที่เกิดการหยุดชะงักในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ปัญหาบางอย่างก็ซับซ้อนเกินกว่าจะแก้ไขได้ ความสามารถในการมองเห็นภาพรวมและการทำงานร่วมกันตลอดห่วงโซ่อุปทานที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้หลายๆ องค์กรต้องเผชิญกับความเสี่ยง ไม่สามารถคาดเดาได้อย่างถูกต้องว่าจะเกิดเช่น ภาษีการค้ากะทันหันที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดปัญหาคอขวดเมื่อใดหรือที่ใด ยิ่งไปกว่านั้น ยังจำกัดความสามารถของผู้ผลิตในการตอบสนองอย่างเหมาะสมเมื่อสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ภาษีการค้าที่มีการปรับเปลี่ยนกะทันหัน

แม้ว่าผู้ผลิตจะเพิ่มความสามารถในการมองเห็นภาพรวมของห่วงโซ่อุปทานได้ แต่ปริมาณข้อมูลที่สูงขึ้นและความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นก็มาพร้อมกับความซับซ้อนที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงได้ยากมากขึ้นเพื่อช่วยจัดการกับการหยุดชะงัก ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นทำให้ผู้ผลิตต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น การขาดข้อมูลที่เชื่อถือได้ส่งผลให้ไม่สามารถตีความหรือนำห่วงโซ่อุปทานแบบคงที่มาใช้วางแผนในระยะยาวและไม่สามารถนำกลยุทธ์ใหม่ๆ มาใช้ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพลดน้อยลง

และยิ่งไปกว่านั้น ผู้ผลิตทั่วโลกต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถเอาไว้ ซึ่งส่งผลให้มีทรัพยากรน้อยลงในการนำวิธีการหรือกลยุทธ์ใหม่ๆ มาปรับใช้

ในสถานการณ์ที่ท้าทาย ผู้ผลิตต้องคิดนอกกรอบเพื่อก้าวให้ทันคู่แข่ง

การนำข้อได้เปรียบด้านความคล่องตัวมาใช้

จากรายงานการวิจัยทั่วโลกล่าสุดของเรา พบว่า 82% ขององค์กรการผลิตภาคอุตสาหกรรมต่างเห็นพ้องกันว่าความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เนื่องจากการปิดช่องว่างด้านมูลค่ากลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเหล่าผู้ผลิต จึงเป็นที่ชัดเจนว่าการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้จะส่งผลกระทบอย่างสำคัญยิ่ง

ความจริงก็คือเครื่องมือที่เหมาะสมสามารถลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนในซัพพลายเชนได้จริง การผสมผสานเครื่องมือเหล่านี้เข้าด้วยกันช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเตรียมพร้อมสู่ความสำเร็จและรักษาตำแหน่งของตนในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมได้

  • ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) บนคลาวด์ช่วยเพิ่มความโปร่งใสด้วยข้อมูลเรียลไทม์ ทั้งด้านคลังสินค้า สถานะซัพพลายเออร์ และโลจิสติกส์ พร้อมรวมข้อมูลให้เห็นภาพรวมเพื่อรองรับการซื้อขายระหว่างองค์กร สำหรับองค์กรที่จำเป็นต้องสนับสนุนหลายพื้นที่ การรวมโรงงานการผลิตและพื้นที่ทำงานในภูมิภาคต่างๆ ไว้ภายใต้ระบบเดียวนำมาซึ่งผลประโยชน์มากมาย เช่น ความสามารถในการติดตามชิ้นส่วนขาเข้าหรือขาออก การประสานงานและการกำกับดูแลทางการเงินที่ครบถ้วนซึ่งช่วยสนับสนุนการค้าระหว่างบริษัท
  • ระบบอัจฉริยะเชิงคาดการณ์อย่างปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (GenAI) ช่วยผู้ผลิตคาดการณ์การขาดแคลนในส่วนต่างๆ และปรับเปลี่ยนการจัดซื้อได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถใช้พูดคุยและวิเคราะห์สถานะโครงการ เพื่อค้นหาความเสี่ยงที่อาจมองข้าม ซึ่งในอดีตอาจต้องใช้เวลามากกว่าที่จะระบุได้ในองค์กรขนาดใหญ่ที่ข้อมูลกระจัดกระจาย
  • การจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (PLM) ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้โดยให้สิทธิ์เข้าถึงดิจิทัลเธรด ซึ่งจะเพิ่มความรวดเร็วในการสรรค์สร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และช่วยให้องค์กรการผลิตภาคอุตสาหกรรมตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น การเร่งผลิตภัณฑ์สำเร็จให้ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นช่วยให้องค์กรการผลิตภาคอุตสาหกรรมสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและส่วนแบ่งทางการตลาด
  • ระบบดิจิทัลอัตโนมัติช่วยให้องค์กรการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดเวลาการหยุดทำงานที่ไม่คาดคิด ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และปรับกำหนดการบำรุงรักษาให้เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้มีความคล่องตัวมากขึ้นและสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างยอดเยี่ยม ระบบอัตโนมัติขั้นสูง เช่น กระบวนการหุ่นยนต์อัตโนมัติ (RPA), แมชชีนเลิร์นนิง (ML) และ AI ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถทำให้งานที่ต้องทำซ้ำๆ ซึ่งไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มดำเนินไปโดยอัตโนมัติ เพื่อให้บุคลากรทำงานได้มากขึ้น นอกจากนี้ การลดข้อผิดพลาดและการเร่งเวลาในการทำงานให้แล้วเสร็จยังช่วยให้มีเวลาไปพัฒนานวัตกรรมระดับสูงมากขึ้นด้วย
  • Process Mining คืออีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยเปิดเผยรูปแบบและความไม่มีประสิทธิภาพภายในกระบวนการเพื่อขับเคลื่อนการปรับปรุง ซึ่งช่วยให้สามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสายการผลิตในแต่ละโรงงาน และกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งกระบวนการของคุณมีความแข็งแกร่งมากเท่าใด คุณก็ยิ่งพร้อมรับมือกับการหยุดชะงักมากขึ้นเท่านั้น

การเปลี่ยนความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นจริง

องค์กรการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มองการณ์ไกลในการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสมจะไม่เพียงเพิ่มความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มผลผลิตทางธุรกิจ ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และค้นพบมูลค่าของตนเองโดยเฉพาะเพื่อสร้างความแตกต่าง

เพื่อสำรวจแนวคิดนี้เพิ่มเติม เราจึงได้ทำการวิจัยทั่วโลกกับผู้มีอำนาจตัดสินใจในองค์กรการผลิตภาคอุตสาหกรรมจำนวน 500 ราย ผลลัพธ์แสดงให้เห็นถึง Vectors to Value สี่ประการ ซึ่งเป็นแนวทางในการอธิบายว่าองค์กรการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดทั่วโลกใช้ข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีเพื่อปลดล็อกกระแสมูลค่าใหม่ๆ ได้อย่างไร

ดาวน์โหลดรายงานของเราได้แล้ววันนี้ เพื่อทำความเข้าใจว่าองค์กรของคุณจะสามารถรักษาสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมไว้ได้อย่างไร

อ่านเลย

บันทึกภายใต้หมวดหมู่

อุตสาหกรรม

ผลิตภัณฑ์

ภูมิภาค

ติดต่อเรา

ติดต่อเรา แล้วเราจะดำเนินการให้ตัวแทนด้านการพัฒนาธุรกิจติดต่อคุณภายใน 24 ชั่วโมงทำการ

เมื่อส่งแบบฟอร์มนี้ ท่านตกลงให้ Infor ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้ในแบบฟอร์มข้างต้น เพื่อใช้ในการติดต่อกับท่านในฐานะลูกค้าที่มีศักยภาพหรือเป็นลูกค้าจริง ตามที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา