5 ขั้นตอนในการเลือกระบบการจัดการคลังสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการผสานรวมระบบอัตโนมัติ

5-steps-for-choosing-the-right-warehouse-management-system-for-automation-integration_600x400.jpg

ยอดขายอีคอมเมิร์ซทั่วโลกไม่เพียงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง แต่ยังพุ่งขึ้นแตะระดับใหม่ในปี 2020 อันเนื่องมาจากการล็อกดาวน์ทั่วโลกและการจํากัดการออกมาเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเองเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มองว่าการเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์คือช่องทางการซื้อหลักของตน โดยรายงานของ Forbes ระบุว่า ยอดขายอีคอมเมิร์ซทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 เพียงปีเดียว

บริษัทจำนวนมากขึ้นกำลังมองหาวิธีใช้โมเดลใหม่ในบริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งอย่างถาวร เช่น การขนส่งตรง การรับสินค้าที่ร้าน และการรับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การจัดการสินค้าคงคลังใหม่มารองรับ เหตุผลนี้เองที่ทำให้ความต้องการที่จะผสานการทำงานระหว่างระบบอัตโนมัติและระบบการจัดการคลังสินค้าจึงยิ่งเพิ่มขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา องค์กรที่ต้องการก้าวไปข้างหน้าบนเส้นทางนี้จะต้องเข้าใจหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการผสานระบบการจัดการคลังสินค้ากับระบบอัตโนมัติ

เมื่อโมเดลธุรกิจเปลี่ยนไปเรื่อยๆ องค์กรจะเริ่มสํารวจขอบเขตการดําเนินการอื่นๆ ที่ผสานกับระบบอัตโนมัติได้ ด้วยเหตุนี้ การพัฒนากลยุทธ์ระบบอัตโนมัติโดยละเอียดที่มี WMS ทำหน้าที่รองรับและปรับขนาดจะกลายมาเป็นปัจจัยสําคัญในการขับเคลื่อนความสําเร็จด้านการดําเนินงาน

 

หลักปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อความมั่นใจในการผสานรวม WMS เข้ากับระบบอัตโนมัติ

 

  1. ดำเนินการวิจัยตลาดรองเพื่อให้แน่ใจว่าพาร์ทเนอร์ WMS ของคุณมีระบบนิเวศที่มีขีดความสามารถของ WMS แบบ Tier 1 หรือครบถ้วนสมบูรณ์

    ระบบจัดการคลังสินค้าและระบบอัตโนมัติพัฒนาขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา และส่งมอบบริการในฐานะชุดเครื่องมือและขีดความสามารถเฉพาะอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ให้บริการซึ่งมีประสบการณ์หลายปีในบางอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะนำเสนอแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมเพื่อสนับสนุนความต้องการเฉพาะของธุรกิจ เราแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์นั้น การทุ่มเทเวลาในการตรวจสอบฟังก์ชันการทํางาน เทคโนโลยีแพลตฟอร์มพื้นฐาน แผนงานในอนาคต และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมที่ผู้ให้บริการ WMS มอบให้นั้นจะเป็นตัวปูพื้นฐานความเข้าใจว่าเทคโนโลยีช่วยสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันและการดําเนินงานระดับโลกได้อย่างไร ยิ่งผู้ให้บริการโซลูชันมีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมมากเท่าใด เทคโนโลยีของผู้ให้บริการก็ยิ่งตอบสนองความต้องการของคุณได้ดีขึ้นเท่านั้น ทั้งยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าฟังก์ชันการทํางานจะ “ทันสมัย” อยู่เสมอ
  2.  

  3. ระบุบุคลากรหลักจากผู้ให้บริการ WMS, ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในองค์กร และผู้จัดจำหน่ายระบบอัตโนมัติเพื่อดําเนินกระบวนการปรับใช้ให้เสร็จสมบูรณ์

    นี่ไม่ใช่การมอบหมายงานแบบพาร์ทไทม์ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เจ้าของกระบวนการ ฝ่ายบริหาร ผู้ปฏิบัติงาน และผู้เข้าร่วมรายอื่นๆ อาจได้รับการว่าจ้างแบบพาร์ทไทม์ตามที่ผู้จัดการโครงการกําหนด แต่ตัวโครงการเอง รวมทั้งเอกสารและการสื่อสารกับคณะกรรมการอํานวยการตลอดกระบวนการปรับใช้นั้นเป็นการมอบหมายงานแบบเต็มเวลาที่ต้องอาศัยการลงแรงอย่างเต็มที่
  4.  

  5. มีภาพกลยุทธ์ระบบอัตโนมัติขององค์กรที่ชัดเจนเสมอ

    หลายบริษัทไม่ได้มีการพัฒนา จัดทำเอกสาร หรือสื่อสารกลยุทธ์ระบบอัตโนมัติแก่ผู้มีหน้าที่นํากลยุทธ์ไปใช้ เนื่องจากระบบอัตโนมัติบางระบบต้องอาศัยเวลาในการปรับใช้นานกว่าและมีการผสานที่รัดกุมมากกว่า การใช้กลยุทธ์เพื่อปรับทรัพยากรการดําเนินงานให้สอดคล้องกับพนักงานจึงช่วยให้การดําเนินกระบวนการและกิจกรรมต่างๆ ที่ทําให้บริษัทคงความสามารถในการแข่งขันและความมีประสิทธิภาพเอาไว้เป็นเรื่องง่ายขึ้น องค์กรที่ยึดโยงกลยุทธ์และมีตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับกลยุทธ์นั้นๆ มีแนวโน้มที่พนักงานจะมีแรงจูงใจให้ทํางานเพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากกว่า จากรายงานล่าสุดฉบับหนึ่ง คาดการณ์ว่าตลาดระบบคลังสินค้าอัตโนมัติจะมีมูลค่ามากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2026 เนื่องจากบริษัทจํานวนมากขึ้นมองหาวิธีที่จะปรับปรุงการดําเนินงานด้านการจัดเก็บและกระจายสินค้าของตน
  6.  

  7. กำหนดแบบแผนสิ่งที่พบหลังการปรับใช้เพื่อระบุการปรับเปลี่ยนที่จําเป็น

     จากคําแนะนําที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ การเลือกฟังก์ชันการทํางานที่มีในตลาดให้ตรงกับกระบวนการเฉพาะของคุณนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ตรวจพบสิ่งที่ขาดหายไปในฟังก์ชันการทํางานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการทำเช่นนี้ยังช่วยสำรวจและบ่งชี้ปริมาณว่าเทคโนโลยีใหม่ช่วยปรับปรุงการดําเนินงานอย่างไรอีกด้วย เมื่อคุณกําหนดฟังก์ชันการทํางานมาตรฐาน ระบุสิ่งที่ขาดหายไปที่สําคัญซึ่งเกิดขึ้นเฉพาะในกระบวนการของคุณ รวมถึงกําหนดตำแหน่งที่ระบบกระจายสินค้าอัตโนมัติใช้งานได้เหมาะสมที่สุด คุณจะสามารถปรับแต่งและปรับขนาดกลยุทธ์ของคุณในส่วนการดําเนินการอื่นๆ ได้
  8.  

  9. มีความรู้เกี่ยวกับข้อกําหนดด้านฟังก์ชันการทํางานของ WMS เป็นอย่างดี

    ข้อนี้สําคัญสําหรับองค์กรที่ให้บริการลูกค้าที่มาจากหลากหลายกลุ่ม SKU ของลูกค้าและผลิตภัณฑ์แต่ละรายการจะมีข้อกําหนด ระบบ ขั้นตอนการทำงาน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องแตกต่างกันไป เมื่อใดที่คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนและตรวจสอบกระบวนการดําเนินการของแต่ละซัพพลายเชนโดยละเอียดเพื่อระบุส่วนที่ต้องปรับปรุงและใช้นวัตกรรมได้ เมื่อนั้นคุณจะอยู่ในตําแหน่งที่ดีที่สุดในการกําหนดความต้องการของระบบ ขอให้คุณไม่ลืมว่า ความต้องการที่คลุมเครือและไม่ชัดเจนคือสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทําให้การดําเนินการผิดพลาดหรือล้มเหลว

 

ขับเคลื่อนหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดไปข้างหน้า

ความสนใจและโอกาสในการเติบโตอย่างต่อเนื่องสําหรับระบบอัตโนมัติและเครื่องมือขนถ่ายวัสดุจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีการนําข้อกำหนดด้านบริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งใหม่ๆ มาตรการด้านความปลอดภัย การจัดการต้นทุน และกลยุทธ์การทํากําไรมาใช้ในสิ่งอำนวยความสะดวกในระบบคลังสินค้า ดังที่ McKinsey and Co กล่าวไว้ในบทความล่าสุดว่า “มีการประมาณการว่าภายในปี 2030 การดําเนินงานส่วนใหญ่อาจจะกลายมาเป็นแบบอัตโนมัติ เนื่องจาก AI ได้เข้ามาทำงานที่ไม่ซับซ้อนและเป็นแบบแผนแทนมนุษย์”2 หากแนวคิดนี้ยังคงถูกต้องแม่นยำ เราก็คาดว่าจะมีองค์กรจำนวนมากขึ้นที่ปรับการดําเนินงานของตนให้คงความสามารถในการแข่งขันและมีความทันสมัยอยู่เสมอ บริษัทที่วางรากฐานสำหรับการใช้ระบบอัตโนมัติที่เพิ่มมากขึ้นของตนจำเป็นต้องมีพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้เพื่อส่งมอบฟังก์ชันการทํางานของระบบอย่างเต็มรูปแบบและการดําเนินงานที่มีประสิทธิภาพให้กับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม

 

1 E. Mazareanu."Size of the warehouse automation market worldwide from 2012 to 2026," Statista.com,  ตุลาคม 2020

2 Galea-Pace, Sean. "McKinsey: what is the future of automation?" Supply Chain Digital, พฤษภาคม 2020

 

 

 การผสานรวมระบบการจัดการคลังสินค้ากับระบบอัตโนมัติเพื่อความสําเร็จด้านการดําเนินงาน คู่มือวิธีการ ภาษาอังกฤษ     

ดาวน์โหลดบทความเป็น pdf

 

ติดต่อเรา

ติดต่อเรา แล้วเราจะดำเนินการให้ตัวแทนด้านการพัฒนาธุรกิจติดต่อคุณภายใน 24 ชั่วโมงทำการ

การคลิก "ส่ง" แสดงว่าคุณยินยอมให้ Infor ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มข้างต้นเพื่อสื่อสารกับคุณในฐานะผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าหรือลูกค้าจริงของเรา หรือลูกค้าตามที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา